Last updated: 7 ม.ค. 2565 | 321 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อว่าใครที่สนใจจะลดสัดส่วนด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์จะต้องเคยได้ยินชื่อ “เมโสแฟต” และ “โบท็อกซ์” กันมาบ้างอย่างแน่นอน อาจใช่ทุกคนจะเข้าใจว่าสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกัน ออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าช่วยกระชับใบหน้าหรือสัดส่วนได้เหมือนกันแต่ถ้าเลือกฉีดแบบไม่เหมาะกับโจทย์ความต้องการของตัว การฉีดนั้นๆจะไม่ได้ผลเลย ไม่ว่าจะเลือกฉีดเมโสแฟตราคาเท่าไร หรือโบท็อกซ์แพงแค่ไหนถ้าฉีดผิดตัวก็จะเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นก่อนตัดสินใจ เราจะพามารู้จักสารเสริมความงามทั้ง 2 ชนิดนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
ความแตกต่างระหว่างเมโสแฟตและโบท็อกซ์
การฉีดเมโสแฟตและการฉีดโบท็อกซ์เป็นการเสริมความงามอีกกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยให้ใบหน้าหรือสัดส่วนร่างกายลดน้อยลง แต่กระนั้นหัตถการทั้ง 2 ประเภทนี้ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากเลยทีเดียว ดังนี้
1.เมโสแฟต (Meso Fat) ใช้ฉีดสลายไขมัน สามารถฉีดได้หลายจุด แต่จุดที่ได้รับความนิยมได้แก่ แก้ม ลำคอ ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น โดยจะค่อยๆเห็นผลหลังฉีดแล้วประมาณ 1 สัปดาห์เป็นต้นไป ส่วนไขมันที่สลายตัวจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะ เพราะฉะนั้นหากต้องการฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลดี แนะนำให้ดื่มน้ำให้มากๆหลังฉีด
2.โบท็อกซ์ (Botox) ใช้ฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ลดเหงื่อที่รักแร้หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปแล้วนิยมฉีดเพื่อลดกราม ใบหน้าจะเรียวสวยได้รูปมากขึ้น จะเห็นการเปลี่ยนแปลงช้ากว่าการฉีดเมโสแฟตอยู่สักหน่อยโดยจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์กว่าจะเห็นผลชัดเจน สำหรับใครที่น่องใหญ่จะฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อน่องก็ได้เช่นกัน แต่ต้องใช้โบท็อกซ์จำนวนมากจึงจะได้ผล ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์ลดน่องจึงค่อนข้างใช้เห็นผลนานกว่าที่ระยะ 4-6 สัปดาห์
ค่าใช้จ่ายในการฉีดเมโสแฟต VS ฉีดโบท็อกซ์
หัตถการทั้ง 2 อย่างนี้มีราคาเริ่มต้นไม่ห่างกันมากนัก สำหรับการฉีดเมโสแฟตราคาจะเริ่มต้นที่ 1,500-2,000 บาทสำหรับการฉีดในปริมาณ 10 CC.ขึ้นไป ส่วนโบท็อกซ์มีราคาเริ่มต้นประมาณ 2,500-3,000 บาท โดยเป็นการฉีดบริเวณเล็กๆอย่าง การฉีดลดริ้วรอยที่หน้าผาก ใต้ตา หว่างคิ้ว เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาจำนวนโดสและการรักษาอย่างใกล้ชิด
สรุปว่าการฉีดเมโสแฟตนั้นเป็นการฉีดลดไขมัน ส่วนโบท็อกซ์จะฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ หากต้องการทำหัตถการอย่างใดอย่างหนึ่งควรศึกษาให้มั่นใจว่าปัญหาของตัวเองอยู่ตรงไหน เช่น การลดขนาดขาถ้าต้องการลดต้นขาต้องฉีดเมโสแฟต แต่ถ้าต้องการลดน่องขาจะต้องฉีดโบท็อกซ์ เป็นต้น หากเลือกฉีดแบบผิดๆ นอกจากจะเสียเงินแล้วยังจะไม่ได้ผลอีกด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการฉีดโบท็อกซ์และฉีดเมโสแฟตราคาเริ่มต้นจะไม่ต่างกันมากนัก โดยราคาจะถูกหรือแพงนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณในการฉีดเป็นหลัก
1 ม.ค. 2567
1 ม.ค. 2567
23 มิ.ย. 2567